อย่างที่รู้กันว่า Personal Statement สามารถชี้เป็นชี้ตายว่าเราจะเข้าเรียนในมหาลัยดังๆ ของต่างประเทศได้หรือไม่ วันนี้! ครูตู่จึงมาแชร์เทคนิคการเขียน Personal Statement ที่สามารถนำไปปรับใช้กันได้ รับรองว่าเริ่มก่อนได้เปรียบแน่นอน เพราะจะมีเวลาในการปรับแก้ หรือเพิ่มเติมให้ Personal Statement ตอบโจทย์สิ่งที่เด็กแต่ละคนต้องการในอนาคต
 

การเขียน Personal Statement ควรเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี แต่ถ้ามีเวลาก็ควรเตรียมล่วงหน้าไว้เลย 2-3 ปี
 
การเขียน Personal Statement ควรเขียนให้ถึง 4,000 ตัวอักษร
คำถามที่ควรตอบให้ได้คือ
1. ทำไมคุณถึงสมัคร Course นี้
2. ทำไมถึงสนใจหัวข้อพวกนี้ เทคนิคการตอบคือสามารถเลือกตอบได้ทั้ง 3 แบบ
            1)  พูดถึง combination 3-4 หัวข้อใน A-level หรือ
            2) เขียนถึงตัว Course ในมหาลัยที่เราสนใจจะเข้าไปเรียนก็ได้
            3) ใช้ข้อมูลทั้ง 1) และ 2) ในการเขียนก็ได้ เพราะทั้ง 3 หัวข้อนี้
                จะตอบโจทย์ว่าทำไมเราถึงอยากเรียนหัวข้อเหล่านั้น
3. ทำไมคุณถึงเหมาะสมกับ Course นี้
4. คุณเคยเข้า Course หรือเรียนอะไรที่เกี่ยวข้องกับ Course ที่คุณสนใจจะเลือกเรียนนี้มั้ย
5. คุณเคยร่วมกิจกรรมอะไร ที่แสดงให้เห็นว่าตัวคุณเหมาะสมกับคอร์สนี้
6. ในส่วนของทักษะ (Skill) และผลงาน (Achievement) ให้เราเริ่มจากทักษะ โดยจับจุดที่ A-level และมองไปที่ทักษะตอนทำงาน (Career) ว่าต้องมีทักษะอะไรบ้าง แล้วนำมาเขียนอธิบาย ในขณะที่ผลงานที่ผ่านมา ต้องเกี่ยวข้องกับ Course ที่จะลง เพื่อที่เราจะเขียนให้สอดคล้องกันได้

10 สิ่ง ที่ควรใส่ใน Personal Statement มีอะไรบ้าง
1. อธิบายว่าทำไมคุณถึงต้องการเรียน Course นี้
2. อธิบายว่าทำไมคุณถึงเป็นคนที่ Course นี้ต้องการ
3. เล่าถึงกิจกรรมที่ทำนอกจากในห้องเรียน และเชื่อมโยงกับ Course ที่เราสนใจ
4. กิจกรรมที่เราทำเกี่ยวข้องกับ Course ของคุณยังไง
5. กิจกรรมเหล่านั้นจะเกี่ยวข้องกับอาชีพที่เราเลือกในอนาคตอย่างไร

6. แสดงให้เห็นความสามารถเกี่ยวกับทักษะ (Skill) ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับงานในอนาคตที่เราต้องทำ
7. อธิบายข้อมูลด้านทักษะที่เราถนัดโดยละเอียด (ไม่ต้องเลือกมาเยอะถึง 7-8 ทักษะ เพียง1-2ทักษะที่โดดเด่น และเกี่ยวข้องกับ Course ที่เราต้องเรียนก็เพียงพอ) เหมือนเป็นหลักฐานแสดงตัวว่าเราเหมาะกับ Course ที่จะเรียนจริงๆ
8. แสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่มี Critical Thinking มีแนวทางความคิดเป็นของตัวเอง ไม่คล้อยตามหรือเชื่อใครง่ายๆ
9. โชว์ให้เห็นการวางแผนระยะยาวของเรา ตอบเขาให้ได้ว่าสุดท้ายเราจะไปถึงจุดที่เรียกว่าความสำเร็จที่ตั้งไว้ได้อย่างไร เราวางแผนทางเดินของเราอย่างไรไว้บ้างเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด
10.  จากข้อ 1 ถึง ข้อ 9 ที่เราเขียนไปต้องมีความ Positive มองทุกอย่างในแง่บวก

หลักๆ แล้วในการเขียน Personal Statement คือ การตอบให้ได้ว่าปริญญาตรีสอดคล้องกับการพาคุณไปสู่อาชีพในอนาคตอย่างไร เพราะมหาลัยมองหาคนที่คิดกว้าง คิดไกล มีคำตอบในใจให้ตัวเองไว้แล้ว แสดงถึงความเป็นคนมีเป้าหมายในการเรียน

Imperial College พูดชัดเจนมากว่าเค้าต้องการเด็กที่รู้ตัวเองว่าต้องการจะเป็นอะไร เพื่ออะไร จึงต้องคิด Personal Statement ให้กว้างไกลถึงอนาคต โดยใช้ปริญญาตรี หรือ Course ที่เราสนใจจะสมัครเนี่ยเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จ